ความแตกต่างของระบบ CNG Dual Fuel กับ Bi Fuel

18 พฤศจิกายน 2561   1587

หลายท่านยังคงมีความสงสัยในเรื่องของวิธีการฉีดจ่ายเชื้อเพลิง ในระบบเชื้อเพลิงร่วมแบบ ดูอัลฟิว (Dual Fuel) ว่าแตกต่างกับระบบไบฟิว (Bi Fuel) ที่ใช้ในเครื่องยนต์เบนซินอย่างไร

ระบบไบฟิว ที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซินนั้น เป็นการจ่ายเชื้อเพลิง 2 ระบบ ที่ท่านสามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงได้เองว่า ต้องการใช้น้ำมันเบนซิน หรือ ใช้ก๊าซธรรมชาติ CNG อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อใดก็ตามที่ก๊าซ CNG หมด เครื่องยนต์จะตัดกลับไปใช้น้ำมันเบนซินให้โดยอัตโนมัติ

ส่วนระบบดูอัลฟิว ที่ใช้ในเครื่องยนต์ดีเซล เป็นการจ่ายเชื้อเพลิงทั้ง 2 ชนิด ระหว่าง น้ำมันดีเซลและก๊าซ CNG ไปพร้อมๆ กัน คือ ไม่สามารถเลือกใช้ก๊าซ CNG เพียงอย่างเดียว และเช่นเดียวกันหากก๊าซ CNG หมดระบบจะตัดกลับไปจ่ายน้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียวให้โดยอัตโนมัติ นั่นหมายถึงว่า ท่านสามารถเลือกใช้ระบบเชื้อเพลิงร่วม หรือจะเลือกใช้น้ำมันดีเซล

ขณะเดียวกันหลายท่านก็ยังมีความสงสัยว่า ทำไมของรถกระบะดีเซลที่ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงร่วมดูอัลฟิวจึงมีราคาสูงขึ้น มากกว่าระบบไบฟิวในเครื่องยนต์เบนซิน และยังไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ สาเหตุที่ระบบเชื้อเพลิงร่วมดูอัลฟิวนั้นมีราคาสูงกว่าระบบไบฟิว เนื่องจากต้องใช้ต้นทุนในการผลิตมากกว่าจากการใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า ระบบไบฟิว และยังมีขั้นตอนการผลิตที่ต้องอาศัยความแม่นยำมากกว่า เช่น การฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบผสมนั้นจะต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำจากระบบ คอมพิวเตอร์ จึงเห็นได้ว่าจะไม่มีร้านทั่วๆ ไป รับติดตั้งระบบดูอัลฟิวให้กับรถกระบะออกมามากเหมือนกับร้านรับติดตั้งระบบ ไบฟิวให้กับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพราะต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า และยังมีความเสี่ยงสูงต่อความเสียหายหากมีการคำนวณผิดพลาด เพราะการตั้งอัตราส่วนในการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงร่วมกันระหว่างก๊าซ CNG กับ น้ำมันดีเซล นั้นขึ้นอยู่กับชนิดเครื่องยนต์และอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์ดีเซลแต่ ละรุ่น

ระบบเชื้อเพลิงร่วมดูอัลฟิวของเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร นั้นสามารถจ่ายก๊าซ CNG ผสมกับน้ำมันดีเซลในอัตราส่วน 65:35 คือ จ่ายก๊าซ CNG ที่ 65% และน้ำมันดีเซล 35% ซึ่งนั่นจะช่วยให้สามารถสร้างความประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงได้มาก ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับรถกระบะที่ถูกนำมาใช้เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ การเกษตร และการขนส่งต่างๆ ที่มีระยะวิ่งหลายร้อยกิโลเมตรต่อวัน

เพราะหากท่านมี ระยะการเดินทางและระยะเวลาในการใช้งานมากๆ ก็จะยิ่งสร้างความคุ้มค่า สามารถช่วยลดต้นทุนและสร้างผลกำไรได้มากขึ้นในการประกอบธุรกิจต่างๆ

รถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร โดยทั่วๆ ไปจะมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 15 กม./ลิตร หากท่านใช้งานรถ 300 กิโลเมตร ต่อวัน

โดยใช้น้ำมันดีเซลอย่างเดียว ท่านจะต้องใช้น้ำมัน 20 ลิตร ราคาน้ำมันดีเซลปัจจุบัน (ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2556) มีราคาลิตรละ 29.99 บาท นั่นเท่ากับว่า ท่านจะมีค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงที่ 599.8 บาท ต่อ 1 วัน

เมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงร่วมระหว่างก๊าซ CNG กับน้ำมันดีเซล ที่อัตราส่วน 65:35 ท่านจะใช้น้ำมันดีเซลเพียง 7 ลิตร เป็นเงิน 209.93 บาท และใช้ก๊าซ CNG ที่ 13 กิโลกรัม ซึ่งก๊าซ CNG มีราคาที่กิโลกรัมละ 10.50 บาท เป็นเงิน 136.50 บาท เมื่อรวมค่าน้ำมันดีเซลกับก๊าซ CNG ท่านจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 346.43 บาท ต่อ 1 วัน ซึ่งประหยัดมากกว่าการใช้น้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียวถึง 253.37 บาท

ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงเกือบ 2 เท่าตัว และยิ่งเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลอย่างเดียว ในระยะการวิ่งต่อวันคงที่ 300กม./วันเป็นเวลา 1 ปี ท่านจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 218,927.00 บาท ต่อ 1 ปี ขณะที่การใช้เชื้อเพลิงร่วมจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 126,446.95 บาท ต่อ 1 ปี ทำให้ท่านสามารถประหยัดไปได้มากถึง 92,480.05 บาท ต่อปี