เร็วๆ นี้ โตโยต้ากำลังคิดค้น เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง ปล่อยมลพิษต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากอดีต ที่เครื่องยนต์ยุโรป เช่น Benz BMW หรือ Volvo ที่เรารู้จัก เมื่อนำเครื่องยนต์ขนาด 1.6-1.8 ลิตร ของค่ายเหล่านี้มาเทียบกับเครื่องยนต์ของค่ายญี่ปุ่น ที่ความจุสูงกว่า

แต่กลายเป็นว่าเครื่องจากค่ายญี่ปุ่น กลับให้กำลังน้อยกว่า กินเชื้อเพลิงมากกว่า แถมปล่อยมลพิษมากกว่า เนื่องจากเครื่องยนต์จากค่ายยุโรป ที่นำระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบผันแปรที่ทำงานร่วมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่นและระบบวาล์วทรอนิกส์

มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป เมื่อในอนาคตโตโยต้าจะ ปล่อยรถหรูรุ่นพี่อย่าง "New Toyota Crown 2015" ที่นำ Toyota AR 2.0L Turbo Engine 300 bhp เครื่องยนต์ 4 สูบ 2000 ซีซี DOHC (ดับเบิลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป) 16 วาล์ว ที่จะใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน หัวฉีดคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น กลไกวาล์วแบบ VVT-i ซึ่งให้แรงม้า 300 แรงม้า แถมใช้เชื้อเพลิงเท่ากับเครื่อง 1.8 ลิตรเท่านั้น

Toyota Athlete Crown 2015
ซึ่งการพัฒนาเครื่องยนต์ของโตโยต้าในครั้งนี้เสร็จสิ้น เครื่องยนต์ AR 2.0L Turbo 300 bpb เครื่องเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว แคมคู่หรือ DOHC (ดับเบิลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป) มีปริมาตรความจุ 2 ลิตร 1,998 ซีซี ให้กำลัง 300 แรงม้าที่ 1,750-6,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 40 กิโลกรัม/เมตร จะถูกจับคู่กับเกียร์ 8 สปีดรุ่นล่าสุดจากโตโยต้า
โดยโตโยต้าอาจส่งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ตัวนี้เข้าประจำการในรถรุ่น SUV-Crossover รวมถึงซีดานและซาลูนสมรรถนะสูงทั้งแบรนด์ Toyota และ Lexus มันจะเข้ามาทดแทนเครื่อง V6-V8 รุ่นเก่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ AR รุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 14-16 กิโลเมตรต่อลิตรในการวิ่งทางไกล และ 8-10 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับการวิ่งใช้งานในเมืองบนตัวถังที่ค่อนข้างหนักของรถรุ่น Athlete crown 2015

และเครื่องยนต์ตัวนี้จะมาแทนเครื่องรหัส 3S-GTE ที่แสนกินน้ำมันอีกด้วย ซึ่งอัตราการสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ AR รุ่นใหม่นี้จะพอๆกับ เครื่อง 2.0 ลิตรที่ไม่มีระบบอัดอากาศ แต่จะให้กำลังสูงกว่ามาก โดยเครื่องยนต์ 2.0 ของญี่ปุ่นที่ไม่มีระบบอัดอากาศ จะให้แรงม้าที่ 180 แรงม้า เทียบกับเครื่องรุ่นใหม่ที่สิ้นเปลืองเท่ากัน กลับให้แรงม้าสูงถึง 300 แรงม้าเลยทีเดียว เมื่อเข้าคู่กับเกียร์ 8 สปีด ที่จะช่วยลดรอบให้ต่ำมากเมื่อวิ่งทางไกล ยิ่งจะทำให้สมรรถนะการขับขี่สูงยิ่งขึ้น

ส่วนเทคโนโลยี Hybrid โตโยต้ากำลังพัฒนาระบบ Plug-In Hybrid ที่ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์รหัส 2AR ขนาด 2.5 ลิตรในปัจจุบันที่ทำงานร่วมแกนกับมอเตอร์เสริมแรงของระบบ Hybrid และมีประจำการอยู่ในรถพลังงานผสมหลากหลายรุ่นของ Toyota และ Lexus จะมีมอเตอร์ที่ทรงพลังและกินไฟในแบตน้อยลงไปอีก

เมื่อมองย้อนกลับไปยังประวัติศาสตร์ ค่าย Toyota มีเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงซึ่งประจำการอยู่ในรถสปอร์ตหลายรุ่น เช่น Supra ที่ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 6 กระบอกสูบอัดเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตร รหัส 1JZ-2JZ GTE รถสปอร์ตเครื่องวางกลางลำอย่าง MR-2 และ Celica GT-4 ที่วางเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ รหัส 3S-GTE รวมถึงเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.6 ลิตร อัดอากาศด้วยซุปเปอร์ชาร์จอย่าง 4A-GZE ที่ประจำการในรถสปอร์ตรุ่น Levin เครื่องยนต์เทอร์โบหรือซุปเปอร์ชาร์จที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น มีสมรรถนะที่ดี สามารถจูนหรือปรับแต่งเพิ่มแรงม้าได้อย่างกว้างขวาง แต่มันมีเทคโนโลยีที่เริ่มล้าสมัย มีน้ำหนักมาก กินเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษอย่างมาก

โตโยต้ามีแผนจะทยอยวางเครื่องยนต์รหัส AR มาแทนเครื่องยนต์รุ่นเดิมในกลุ่มรถสปอร์ตและรถหรูของค่าย Toyota และ Lexus

สำหรับเครื่องยนต์ V6 รหัส 2AR ที่วางอยู่ในรถยนต์แบบ Hybrid หลากหลายรุ่นกำลังจะถูกปรับแก้ในเร็วๆ นี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งด้านอัตราสิ้นเปลืองและค่าของการปล่อย CO2 เพื่อใช้งานในรถ RX 270 สำหรับเครื่องยนต์รหัส 2 AR-FE จะเป็นตัวแปรสำคัญของเครื่อง 2.5 ลิตรขนาดเล็ก เครื่องตัวนี้ยังใช้ใน Toyota RAV4 และ Camry

ส่วนตลาดรถยนต์ในประเทศจีนที่นิยมของหรู รถ Lexus ES 250 ยังคงใช้เครื่อง 2AR-FXE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ Hybrid

ขณะที่เครื่อง 3AR-FTE 2.0 ลิตรเทอร์โบ 300 แรงม้านั้น จะออกสู่ตลาดประมาณปลายปี 2014 ถึงต้นปี 2015 อย่างแน่นอน Mr. Tetsuya Tada หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนารถ Toyota GT86 ของ Toyota Motor และอดีตนักขับรถแข่ง ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบ เป็นเทคนิคที่ทำให้เครื่องยนต์ขนาดเล็กให้กำลังสูงสุดได้อย่างง่ายๆ

ซึ่งในปี 2014 โตโยต้าจะเริ่มมีการทยอยนำมาลงกับรถรุ่นต่างๆ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะใช้กับรถรุ่นใดบ้าง>