ไล่ฝ้ากระจกรถ ด้วยวิธีง่ายๆ

19 พฤศจิกายน 2561   10234

เมื่อถึงช่วงเวลาฝนตกหรือเวลาไปตามสถานที่มีอากาศเย็นนั้น ปัญหาที่มักพบคือ ฝ้าขึ้นกระจก ซึ่งมันทำให้เรา ขับรถลำบากขึ้น และยิ่งไปตามเส้นทางที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อนด้วยแล้วยิ่งอันตรายไปใหญ่

หลายคนอาจสงสัยว่าฝ้ามาขึ้นที่ตัวกระจกรถของเรานั้นได้อย่างไรกัน
คำตอบ ฝ้าที่เกิดกระจกด้านนอกของตัวรถ เกิดจากด้านนอกของตัวรถเรานั้นมีอุณหภูมิน้อยกว่าในตัวรถของเรา แต่ถ้าเป็นที่ภายในรถก็คือ อุณหภูมิภายในรถเราสูงกว่าข้างนอกนั่นเอง วิธีแก้นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรครับ แค่ปรับเพิ่ม-ลด อุณหภูมิแอร์ของรถเรา เพื่อไม่ให้อุณหภูมิภายในภายนอกแตกต่างกันจนเกินไป การปรับเปลี่ยนทิศทางลม ใช้ที่ปัดน้ำฝน หรือใช้ผ้าเช็ด หรือการแง้มกระจกเพื่อเพื่อให้อุณหภูมิภายในภายนอกให้เท่ากัน เมื่อปล่อยทิ้งไว้ซักพักฝ้าก็จะหายไป

การไล่ฝ้าที่กระจกหน้ารถ
คนขับจะทำเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นในการขับขี่ให้เพิ่มมากขึ้น และในคู่มือการใช้รถ เขามักจะมีวิธีการไล่ฝ้าด้านหน้าอยู่โดยจะปฏิบัติหลักๆดังนี้

  1. ปรับความแรงของตัวพัดลม ไปอยู่ในระดับที่เหมาะสม
  2. ปรับอุณหภูมิแอร์ไปที่ไปที่อุณหภูมิที่ไม่ต่างจากภายนอกจนเกินไป
  3. ปรับตัวช่องอากาศเข้า ให้อากาศภายนอกเข้ามาในรถ

การเปิดรับอากาศจากภายนอกเข้ามาในตัวรถ ทำให้อุณหภูมิภายในกับภายนอกนั้นเท่ากัน ทำให้ช่วยลดการเกิดฝ้าได้เร็วที่สุด แต่มันก็มี ข้อเสีย เช่นกันที่เราอาจจะได้รับความเสี่ยงสิ่งแปลกปลอมเข้ามา ในตัวรถของเราแล้วเข้าไปในตู้แอร์ ตันพังชำรุดได้เหมือนกัน ดังถ้าคิดที่จะทำก็นึกคิดถึงจุดนี้ด้วย แต่ถ้าฝ้าเกิดขึ้นในตอนที่ฝนไม่ตก แง้มหน้าต่างรถยนต์แทนก็สามารถช่วยได้

การไล่ฝ้าตัวกระจกหลัง
โดยทั่วไปในรถบางรุ่นเฉพาะจะมีปุ่มกดไล่ฝ้ากระจกหลัง โดยทำการไล่โดย เส้นไล้ฝ้าที่ตัวกระจกนั้นจะทำมาจากนิกเกิ้ลหรือไม่ก็ทองแดง โดยจะติดแนบกับตัวกระจก เมื่อกดปุ่มก็จะมีกระแสไฟฟ้าวิ่ง เข้าไปจนเกิดความร้อนและขับไล่ฝ้าออกไปนั้นเอง แต่ก็อย่าลืมดูด้วยเหมือนกันว่าตัวกดไล่ฝ้ากระจกหลังของเรามันตัดการทำงานอัตโนมัติหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีตัวตัดการทำงาน แล้วเปิดทิ้งไว้ความร้อนจะทำให้ตัวกระจกแตกร้าวเสียหายได้ เมื่อเห็นว่ากระจกแห้งดีแล้วควรกดปิดการทำงานทันที

จบไปแล้วครับกับการไล่ฝ้ากระจก จริงอยู่การไล่ฝ้ากระจกจะทำให้เราเห็นได้ดีขึ้น แต่ถ้าเมื่อฝนตกหนักแล้ว รู้ว่าตัวเองขับไม่ไหวก็ควรแวะข้างทางหรือ จุดพักจุดแวะเสียก่อน ดีกว่ารีบร้อนจนไปเกิดอุบัติเหตุได้ครับ

บทความจาก www.kinggloss.com