วิธีแก้ไขพวงมาลัยสั่น และหาต้นตอของอาการ

21 พฤศจิกายน 2561   19151

เคยเป็นกันหรือเปล่าครับ ตอนขับรถเร็วๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พวงมาลัยรถเกิดอาการสั่นๆ พอยิ่งเร็วกว่าเดิมก็ยิ่งสั่นเข้าไปใหญ่ และพอเร่งความเร็วเพิ่มไปบางคันอาจสั่นน้อยกว่าเดิม แต่บางคันก็สั่นมากกว่าเดิม ซ้ำยังทำให้เรารำคาญแถมซ้ำเสียสมาธิในการขับรถอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นการบอกเตือนว่ารถเรามีปัญหา ดังนั้นเรามาหาต้นตอและวิธีแก้ไขกันดีกว่าครับ

ยาง เป็นสาเหตุแรกๆ ที่ทำให้พวงมาลัยสั่น ซึ่งมีหลายอาการ เช่น

  1. เกิดจากการบวมของยางจากยางที่หมดอายุ
  2. การเบรกที่รุนเเรงแบบ
  3. หน้ายางไถลไปกับพื้น
  4. การตกหลุมแรงๆ
  5. ขับไปทับกับของแข็งจนทำให้โครงสร้างภายในยางเกิดการเสียหายเปลี่ยนรูป
  6. ยางที่ไม่ค่อยได้ใช้ เช่นยางเปอร์เซนต์เก่าหรือรถที่จอดทิ้งไว้นานโดยไม่ได้ขับไปไหน

สำหรับขั้นตอนการตรวจเช็คยางมีดังนี้

  1. เช็คดูที่แก้มยางหา วันเดือนปี ที่ผลิต ไม่ควรจะเกิน 4 ปี ซึ่งวิธีดูวันผลิตจะมาบอกในบทความคราวหน้า
  2. ลองเอาแม่แรงยกรถให้ล้อสูงจากพื้น ให้ลองทำการหมุนล้อ สังเกตว่ายางมันยังหมุนกลมดีอยู่หรือเปล่า
  3. สำหรับสาวๆหรือคนไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องช่าง ไปร้านยางที่มีเครื่องถ่วงล้อให้เขาเช็คให้ดีกว่า ว่ายางบวมไหม แถมเป็นวิธีที่ตรวจสอบได้ดีที่สุดอีกด้วย
    การแก้ไข ควรเปลี่ยนยางครับ ไม่คุ้มแน่ๆ ถ้าฝืนใช้ต่อ อันตรายมากเดี๋ยว ยางระเบิด ขึ้นมาทำให้ประสบอุบัติเหตุได้ หรือไม่ยางก็จะยืดหลุดออกจากล้อเมื่อคุณขับรถด้วยความเร็วสูง ความเสียหายเทียบไม่ได้เลยครับกับการเปลี่ยนยาง

ล้อแม็ก เป็นอีกส่วนที่สำคัญทำให้พวงมาลัยสั่น เพราะถ้าตัวกระทะล้อเบี้ยวผิดรูป จะทำให้หน้ายางบิดเบี้ยว ซึ่งอาจเกิดมาจากรถตกหลุมแรงๆหรือรถชนฟุตบาทด้วยความแรง หรือเกิดจากที่ไปนำกระทะล้อ ไปเจาะรูเอง หรือตัวตะกั่วถ่วงล้อมันหลุดไป
วิธีการเช็คคล้ายๆกับการเช็คยาง

  1. เอาขึ้นแม่แรงยกลอยเหมือนเดิมแล้วเช็คดูความแกว่งของล้อและยาง
  2. ถอดล้อมาดูสังเกตุ รอยบุบรอยร้าวของกระทะล้อมีการเสียรูปทรงไหม
  3. เช็คดูตะกั่วถ่วงล้อยังอยู่ดีไหม สังเกตจากรอยที่เคยมีรอยกระดาษการเเปะ
  4. ใครไม่ชำนาญเพิ่งร้านแม็กร้านช่างดีกว่า
    การแก้ไข ถ้าแค่ตะกั่วหลุดก็เอาไปถ่วงล้อใหม่ แม็กบุบแม็กเบี้ยวถ้าไม่เสียหายมากนักร้านก็ซ่อมได้โดยการใช้ความร้อนสูงและเคาะกลับและนำไปกลึง ให้เข้ารูป แต่ตัว แม็กจะบางลง แข็งแรงน้อยลงกว่าเดิม ถ้ามันแตกมันร้าวเยอะแนะนำเปลี่ยนใหม่หายขาดดีกว่า และตัวแม็กร้าวนั้นความสามารถก็ด้อยลงอีกในเรื่องรับแรงดันลมยาง และหลีกเลี่ยงการเจาะรูที่ตัวแม็กเพราะจำทำให้ร้าวได้นอกจากร้านที่ชำนาญจริงๆ

ปลอกดุม เป็นตัวช่วยล้อแม็กและดุมประคองกันเพื่อให้ตำแหน่งล้อได้เซนเตอร์เวลาใส่ล้อ ดังนั้นเวลาซื้อแม๊กมาใหม่นอกจากขนาด และออฟเซ็ตแล้ว ยังต้องคำนึงถึงไดมิเตอร์ตรงกลางระหว่างดุมกับล้อด้วยว่า มีช่องว่างห่างกันหรือไม่
การตรวจเช็ค ถอดล้อและวัดความกว้างระหว่างขนาดของดุมล้อ กับรูกลางของแม็ก ว่ามีระยะห่างหรือไม่ ถ้าเคยมีอยู่แล้วตรวจดูว่าหายไประหว่างถอดใส่หรือไม่
วิธีแก้ไข ซื้อล้อแม็คที่มีรูไดมิเตอร์ตรงกับเข้ากับดุมล้อรถของเรา ถ้าไม่ตรงกันควรวัดขนาดของดุมล้อแล้วให้โรงกลึงที่มีความชำนาญ กลึงปลอกดุมให้พอดีกับล้อและดุม

จานดิสก์เบรก เป็นสิ่งที่ทำให้พวงมาลัยสั่นได้เช่นกันเพราะตัวจานดิสเบรค เป็นแผ่นโลหะที่ทนความร้อนและการเย็นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในบางครั้งที่ตัวจานดิสเบรกอุณหภูมิสูงถึงหลายร้อยองศาจนแดงเหมือนเหล็กตีดาบเผาไฟดังนั้นเมื่อเย็นตัวลงแบบเฉียบพลันก็อาจมีอาการคดเปลี่ยนรูป เสียรูปทรงได้เช่นกัน
วิธีการเช็ค ถอดล้อออก แล้วเอาน๊อตล้อนั้นแหละมาไขให้แน่นพอที่จะหมุนจานเบรก แล้วหมุนจากนั้นสังเกตว่ามันแกว่งไหม ดูได้จากคาริบเปอร์เบรก และลองสังเกตผ้าเบรกถ้าขยับคือจานเบรกหลวม
วิธีการแก้ไข ถ้าจานเบรกคดก็ต้องส่งร้านเบรกเอาไปเจียรใหม่ แต่ถ้าจานเบรกมันบางมากก็เปลี่ยนใหม่ดีกว่าครับ ถ้าฝืนอยากใช้ต่อ จานเบรกอาจจะร้าวและแตกได้ง่ายมาก และควรตรวจล้างปั้มเบรกอย่างสม่ำเสมอเมื่อถึงเวลาตรวจเช็ค และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเบรกติดต่อกัน ยกตัวอย่างเวลาเราขับรถลงเขา หรือการเบรกที่รุนแรงติดต่อกัน ถ้ารู้ตัวว่าเรามีอุปนิสัยเหยียบเบรกบ่อยๆและรุนแรง ผมแนะนำให้ใช้จานเบรกแบบรถแข่ง น่าจะเหมาะสมมากกว่า

ลูกปืนล้อ หน้าที่ของลูกปืนล้อคือเป็นตัวรองรับน้ำหนักและจุดหมุนของล้อ ดังนั้นถ้าลูกปืนหลวมหรือแตก ก็จะทำให้ล้อแกว่งเสียการทรงตัวและมีเสียงดัง และพวงมาลัยสั่นได้ ซึ่งสาเหตุเกิดมาจาก จาระบีลูกปืนเสื่อมสภาพ ไม่ก็ซีลของตัวลูกปืนล้อเสียแล้วมีฝุ่นและน้ำเข้าไปได้
วิธีตรวจเช็คสภาพลูกปืนล้อ

  1. ขึ้นแม่แรงให้ล้อลอยจากพื้นเหมือนเดิมลองหมุนล้อแล้วสังเกตุฟังเสียงของลูกปืนว่ามีเสียงไหม
  2. จับล้อตรงส่วนล่างลองขยับขึ้น-ลง แล้วดูว่าหลวมไหม
    การแก้ไข ถ้าแค่หลวมปรับตั้งโดยถอดปลิ้นล๊อคลูกปืนล้อ แล้วไขให้แน่แล้วจึงค่อยคลายออกประมาณ 30ถึง 45 องศา แล้วลองเช็คใหม่ว่าแน่นไหม ถ้ายังไม่แน่นและมีเสียงดังอยู่ ให้ถอดออกแล้วเปลี่ยนลูกปืนล้อใหม่ และดูแลการเปลี่ยนซีลลูกปืนล้อ ล้างและเปลี่ยนจาระบีอย่างสม่ำเสมอ

ดุมล้อ แกน-ดุมล้อถือเป็นเป็นแกนหลักของการหมุนของล้อ ถ้าดุมล้อเกิดอาการคต ผิดมุมล้อไป ก็ทำให้ล้อแกว่งเช่นกัน พวงมาลัยก็จะสั่นด้วย ซึ่งเกิดมาจากขับรถตกหลุมแรงๆ เกิดอุบัติเหตุ และการที่ซ่อมรถที่ผิดพลาดและไม่ดี
วิธีการเช็ค ถอดหลายอย่างเอาเรื่องอยู่ ใครไม่ชำนาญเข้าศูนย์เข้าร้านเข้าอู่ดีกว่า แต่ขออธิบายหน่อยละกัน

  1. ถอดล้อ คาริเปอร์เบรก จานเบรก และลูกปืนล้อออก สังเกตว่าดุมล้อมีอาการคดงอหรือไม่
  2. นำรถเข้าเครื่องตั้งศูนย์ ซึ่งจะเช็คได้ว่ามุมล้อเสียศูนย์เสียสมดุลหรือไม่
    วิธีการแก้ไข ไม่มีครับนอกจากเปลี่ยนใหม่ ดุมล้อเป็นตัวแปรสุดท้ายละครับที่ทำให้เกิดพวงมาลัยสั่น

การแก้ไขพวงมาลัยสั่นนั้นอาจจะแก้ยากหน่อยครับ เพราะสาเหตุของปัญหามีหลากหลายเหลือเกิน ต้องประเมินและค่อยๆเช็คกันดีๆ ส่วนของช่วงล่างรถไม่แม้จะค่อยเกี่ยวกับอาการทำให้พวงมาลัยสั่น แต่จะมีส่วนในการทรงตัวและอาการล้อแกว่งของรถมากกว่า