ในรถรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นจะมีสัญญาณเตือนเมื่อผ้าเบรคใกล้หมด แต่ก็มีรถอยู่ไม่น้อยที่ต้องใช้วิธีสังเกตุ วันนี้โตโยต้านนทบุรี จะมาบอกวิธีสังเกตุว่าควรเปลี่ยนผ้าเบรคหรือยัง

1. สังเกตุเสียงขณะเบรค : ผ้าดิสก์เบรคบางรุ่นอาจมีการฝังโลหะอ่อนไว้ลึกๆ เมื่อผ้าเบรกใกล้หมดก็จะขูดกับดิสก์เบรคทำให้มีเสียดังแหลมๆ แต่ไม่ทำความเสียหายเหมือสกับผ้าเบรกหมดสนิท ผ้าเบรกหรือดรัมเบรคต้องถูกอัดติดไว้กับแผ่นเหล็กจึงไม่ควรรอให้ผ้าเบรคหมด สนิทเพราะแผ่นโลหะจะไปขูดจนดิสก์หรือดรัมเบรตเป็นรอยลึกได้
2. สังเกตุน้ำมันเบรค : ถ้าน้ำมันเบรคพร่องไปแต่ไม่มีการรั่วซึมของระบบ ก็อาจเป็นได้ว่า ผ้าเบรคสึกไปมากแล้ว
3. สังเกตุความหนาของผ้าเบรค : เป็นวิธีที่ตรงตัวที่สุด ไม่ควรใช้จนผ้าเบรคบางกว่า 3 มิลลิเมตร เพราะถึงแม้จะยังพอใช้ได้ แต่เนื้อผ้าเบรคที่โดนความร้อนมานานนั้น เสื่อมสภาพลงมากแล้ว และเสี่ยงต่อการหมดก่อนเปลี่ยน จริงๆ พอเหลือ 7 มิลลิเมตรก็ควรเปลี่ยนแล้ว

เปลี่ยนผ้าเบรคครั้งละสองล้อเสมอ : การเปลี่ยนผ้าเบรคต้องเปลี่ยนครั้งละสองล้อ คือ ล้อซ้ายและล้อขวา โดยอาจเปลี่ยนเป็นเป็น คู่ล้อหน้า และ คู่ล้อหลัง โดยปกติแล้วอัตราการเปลี่ยนผ้าเบรคหน้า ต่อ ผ้าเบรคหลังคือ เปลี่ยนผ้าเบรคหน้า 2 ครั้ง จึงจะเปลี่ยนผ้าเบรคหลัง 1 ครั้ง

การเลือกซื้อผ้าเบรกจะต้องบอกยี่ห้อ รุ่น ปี และเครื่องยนต์ให้ละเอียด เพื่อจะได้เลือกซื้อผ้าเบรกได้ตรงกับรุ่นของรถยนต์ นอกจากนี้เมื่อเปลี่ยนผ้าเบรกแล้ว เก็บผ้าเบรกเก่าไว้สัก 1 ชิ้นเพื่อนำไปเทียบขนาดในการเลือกซื้อครั้งต่อไป